ความแตกต่างระหว่าง Copy Trade และ PAMM คือ
Copy Trade - ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือนเท่ากันทุกเดือน ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ผลตอบแทนที่ได้เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วจะใกล้เคียงกับต้นฉบับที่เทรดได้ ส่วนตัวเม็ดเงินที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เราจัดสรรแบ่งมาสำหรับ Copy Trade ซึ่งเราเป็นผู้กำหนดเองว่าจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตที่เรามี แต่ความยุ่งยาก คือ เราต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไว้ตลอดเวลา เพื่อให้ระบบ copy คำสั่งซื้อขาย หรือจำเป็นต้องเช่า VPS หากไม่อยากให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเปิดตลอดเวลาจนมันพัง และการ Copy Trade ต่างโบรกเกอร์กันก็มีผล เพราะค่าสเปรดที่ได้ จะไม่เท่ากัน บางครั้งต้นฉบับปิดออเดอร์ได้กำไรเล็กน้อย แต่เครื่องที่ copy ติดลบเล็กน้อย ต่างกันเพราะค่าสเปรด เป็นต้น อีกทั้งยังต้องสมัครเป็นสมาชิกของ MQL5 อีกด้วย
PAMM - เปรียบเสมือนกองทุนรวมที่เรารู้จักกันนั่นเอง ข้อดี คือ ง่ายต่อการลงทุน เพราะแค่เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ แล้วก็โอนเงินภายในเข้าพอร์ตลงทุนของตัวเอง ที่เหลือก็ปิดคอม รอรับผลการดำเนินงานที่ระบบจัดส่งให้ทุกวัน หรือ Login เข้ามาดูทางโบรกเกอร์ก็ได้เช่นกัน โยกย้ายกองทุนได้ด้วยตนเอง แต่ข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายสูงกว่า Copy Trade เพราะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกำไรที่ได้
กองทุนชื่อ RedPomelo ของ Weltrade ที่ผมได้เปิดและดำเนินการเป็นผู้จัดการกองทุนอยู่นี้ เดือนที่แล้วเป็นการทำความคุ้นเคยกัน กราฟเลยไม่เป็นรูปร่างเอาซะเลย เนื่องจาก ตัวผมเน้นเข้าให้ถูกจังหวะ เก็บเล็กเก็บน้อย แต่ Weltrade มีค่าสเปรด 20 pip ทำให้การตอดเล็กตอดน้อยเลยพลาดไปหลายครั้ง และวันศุกร์ตัวผมเองไม่ค่อยชอบถือพอร์ตข้ามสัปดาห์ จึงจำเป็นต้องคัตลอสออกไป จากที่ได้เปอร์เซ็นต์สิบกว่า เลยเหลือติ๊ดเดียว แต่ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ตั้งใจเทรดให้เต็มที่แน่นอนครับผม